รีวิว INTERCEPTOR สงครามขีปนาวุธ หนังแอ็คชั่นดูสบาย ๆ ค่าย NETFLIX »

…ผมหวังไว้แค่ขอติดท็อป 10 บน Netflix แต่หนังเรื่องนี้ดันติดอันดับ 1 เกือบทุกประเทศ ผมไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้…
Matthew Reilly ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ เปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2565

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ เจเจ คอลลินส์ รับบทโดย เอลซ่า พาทากี้ (Elsa Pataky) เล่นเป็นทหารหญิงสาวสวยแถมแกร่ง นางเอกกลับมาประจำการที่ฐานยิงสกัดขีปนาวุธกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องเจองานหนักระดับโลกโดยแบกไว้คนเดียว แถมยังต้องสู้กับปมอดีตฝังใจที่เคยโดนบุลลี่จากเพื่อนทหารชายเกือบทั้งกองทัพ โดยมีพลเมืองอเมริกันกว่า 300 ล้านคน ตกเป็นเป้าหมายในมหันตภัยครั้งนี้

Interceptor มีชื่อไทยตั้งสะดวกไม่เปลืองสมองว่า “สงครามขีปนาวุธ” โดยเกริ่นให้คนดูรับรู้ก่อนจะได้ไม่งงว่า อเมริกามีฐานตรวจจับและป้องกันขีปนาวุธนิวเคลียร์อยู่ 2 แห่ง หน้าที่ของฐานนี้คือ คอยตรวจับขีปนาวุธที่มุ่งหน้ามายังแผ่นดินใหญ่ของอเมริกา และจะยิงขีปนาวุธออกไปทำลายก่อนจะเข้าน่านฟ้า ฐานแรกคือ ฟอร์ตกรีลีย์ อยู่ในรัฐอะลาสก้า และฐานที่ 2 คือ SBX-1 อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ฐานแรก ฟอร์ตกรีลีย์โดนจู่โจมและฆ่าเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างโหดเหี้ยม พร้อมทั้งประกาศว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายมีขีปนาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียจำนวน 16 ลูก โดยขโมยมาเพื่อทำการใหญ่ครั้งนี้โดยเฉพาะ และตั้งจุดหมายปลายทางไปยัง 16 รัฐของอเมริกาไว้แล้ว เป้าหมายต่อไปของกลุ่มก่อการร้ายคือทำลายฐาน SBX-1 ที่นางเอกของเรื่องคือ คอลลินส์เพิ่งถูกส่งไปประจำการ

หนังเปิดเรื่องรวดเร็วพอสมควร หลังแนะนำนางเอกหญิงเพียงเล็กน้อย กลุ่มคนร้ายก็เปิดตัวให้คนดูได้เห็นแผนการณ์ร้าย โดยพยายามบุกเข้ายึดห้องควบคุม แต่คอลลินส์แก้เกมได้ทัน และขังตัวเองกับเจ้าหน้าที่ชายอีก 2 คนไว้ในห้องควบคุม ทำให้ผู้ก่อการร้ายต้องหาทางแก้เกม แผนที่วางไว้ทำท่าจะมีปัญหาแล้ว ส่วนทางกองทัพสหรัฐฯ พอทราบเรื่องก็รีบส่งหน่วยซีลมาช่วย แต่กว่าจะมาถึงก็เลือดแห้งแล้วนั่นแหละ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงตกเป็นภาระของคอลลินส์ นางเอกของเราต้องต้านการบุกรุกของผู้ก่อการร้ายไม่ให้เข้ามาในห้องควบคุม ซึ่งระหว่างนี้ อเล็กซานเดอร์ เคสเซิล หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายก็พยายามบีบบังคับให้คอลลินส์ยอมเปิดประตูด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่แสนจะโหดเหี้ยม ขณะเดียวกันก็ให้ลูกน้องพยายามเจาะประตูเข้าไปให้ได้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ขอบอกให้ดูเอาสนุกแบบเพลิน ๆ ไม่ต้องคาดหวังมาก เพราะเอลซา พาทากี เมียของพี่คริส เฮมสวอร์ธ แสดงได้ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่โดดเด่น แต่กลับกัน คริส เฮมสวอร์ธ ที่มาเป็นดารารับเชิญในบทพนักงานขายทีวียังดูสะดุดตาซะกว่า แถมทำให้หนังดูมีอะไร ๆ อีกด้วย ส่วนพล็อตเรื่องก็ง่าย ๆ เดาทางได้ทั้งหมดและยังล้าสมัยอีกด้วย

สรุปว่า นี่เป็นหนังที่ดูได้สนุก หรือจะดูก็ดี ไม่ดูก็ไม่เดือดร้อน แต่จ่ายเงินให้เน็ตฟลิกซ์ไปแล้วก็ควรดูนะ (ฮา)